Friday, March 29, 2013

[Running Diary] 28.03.13 วิ่งในโลกส่วนฉัน




หลังจากที่ร่างกายอ่อนแอ หมดสภาพไปจากงานมิตซูที่ผ่านมา ตอนที่ป่วยนี่มันไม่มีความรู้สึกอยากวิ่งเลยนะ มันแขยงมาก จนพาลให้สั่งตัวเองพักไปสองวันเต็มๆ และเริ่มกลับไปวิ่งอีกครั้งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพราะรู้สึกว่าดีขึ้นแล้ว แม้จะยังมีอาการตุ่ยๆแปลกๆอยู่บ้าง แต่ก็คิดว่าตัวเองน่าจะไหว และก็ได้รู้ว่า ยังไม่หายนี่หว่าก็ตอนพาตัวเองลงไปวิ่งแล้วนั่นแหละ

อาจเป็นเพราะวันพุธนั้นเป็นวันที่ต้องทำงานข้างนอก ตะลอนตระเวณทำหน้าที่นางงามเดินสายทั้งวัน แดดเดือนมีนาแสนระอุ กับการจราจรในกรุงเทพฯที่แสนหฤโหด การจบวันด้วยการวิ่งในสวนหลังแดดเพิ่งหมดไม่ใช่เรื่องฉลาดเลยจริงๆ วิ่งไปได้สองรอบสวนลุม ถึงกับต้องบอกตัวเองว่า หยุดเถ๊อะ ถ้าไม่อยากกลับไปหมดสภาพอีก



สภาพอากาศช่วงนี้ไม่เหมาะกับการวิ่งเลยจริงๆ ระหว่างวันขณะนั่งทำงานในหัวจะคิดกังวลเสมอ ว่าวันนี้จะวิ่งดีไหม ใจอยากวิ่งเหลือเกิน แต่บอกตรงๆทนรับสภาพอากาศไม่ไหวจริงๆ แต่..เมื่อมีเป้าหมาย ก็ต้องวิ่ง  เมื่อวานไปถึงสวนลุมด้วยอาการใจลอย อยากๆแต่ไม่อยาก  ไม่เป็นไร วิ่งไป ตอนวิ่งวอร์ม รู้สึกแปลกกับตัวเอง ทำไมเราวิ่งได้ดี รู้สึกสบายใจมาก ไม่รู้สึกกดดันเลย เรียกสติจากความใจลอยกลับมาเพื่อพิจารณาการวิ่งของตัวเองว่า เหตุใดจึงวิ่งได้อย่างเป็นสุข แล้วก็พบว่า เพราะฉันวิ่งอยู่กับตัวเอง ไม่สนใจคนรอบข้าง ไม่เอาตัวเองไปวิ่งกับใคร วิ่งด้วยจังหวะของฉันจริงๆ ตัดความรู้สึกที่ว่าใครจะคิดว่าเราวิ่งช้า วิ่งเตาะแตะ วิ่งไม่เป็นออกไปให้หมด เออ..พอตั้งโลกสูญญากาศของตัวเอง มันวิ่งอย่างสบายใจจริงๆ

ระหว่างเหยียดยืด บอกตัวเองว่าเดี๋ยวพอไปวิ่งต้อง Nice, Soft, and Easy นะวันนี้ เพราะยังติดใจความรู้สึกเมื่อกี๊อยู่ ออกวิ่ง และไปแบบค่อยเป้นค่อยไป ไม่กดดันตัวเองว่าต้องทำเวลา ไม่กดดันตัวเองเวลามีใครวิ่งแซง ค่อยไปๆ มีสมาธิกับลมหายใจ หน้ามองตรง ไม่วอกแวก หัวโล่งมากไม่คิดอะไรเลย ทั้งที่พยายามจะใช้ช่วงเวลาวิ่งคิดนนู่นนี่เพื่อหาคำตอบหลายๆอย่างให้กับตัวเอง แต่วันนี้หัวมันโล่ง สบายเกินกว่าจะคิดอะไร มีแต่ตัวฉัน กับจังหวะของสองเท้าจริงๆ แล้วมันก็เป็นอีกหนึ่งวันที่วิ่งได้ดีมาก ไม่เหนื่อยจนเกลียดการวิ่ง วิ่งไป 3 รอบโดยไม่หยุดเลยในจังหวะที่สวยงาม ยังวิ่งต่อได้ แต่บอกตัวเองให้หยุดทั้งที่ยังสนุกและอยากวิ่ง เพราะจะได้อยากกลับมาวิ่งอีก แม้จะคิดอะไรไม่ได้ระหว่างวิ่ง แต่มันโล่ง และปลดปล่อยอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ กลับบ้าน อารมณ์ดี นอนหลับสนิท

เวลาที่เราเลิกสนใจโลกรอบข้าง เลิกใส่ใจกับสิ่งที่หมุนอยู่รอบตัว และตัวฉันมีแต่ตัวฉันเท่านั้น เมื่อนั้น..ฉันสุข

1 comment:

  1. แปลว่าวันนี้วิ่งอย่างมีความสุขจริงๆ ^^

    ReplyDelete