เลือกรองเท้าวิ่งอย่างไร

หนึ่งในคำถามโลกแตกของคนที่คิดจะเริ่มวิ่ง คือ เลือกรองเท้าวิ่งอย่างไรดี? ขอออกตัวก่อนว่า เขียนเรื่องนี้ตามมุมมองแบบผู้หญิ๊ง ผู้หญิงธรรมดาที่ไม่มีความเชี่ยวชาญใดๆ แต่ใช้จริตซื้อของล้วนๆ ทุกครั้งที่มีคนมาถาม ฉันมักจะตอบไปแบบง่ายที่สุด “ซื้อที่ชอบ” เพราะเชื่อว่าตามหลักจิตวิทยา และพฤติกรรมของผู้บริโภคทีได้ร่ำเรียนมา ถ้าเราซื้ออะไรที่เราชอบ เราก็จะหาเหตุผลยกแม่น้ำร้อยสายมาบอกว่ามันดียังไง เริ่ดยังไง มันช่างเกิดมาเผื่อฉันเสียจริง แต่เมื่อใดที่ดันไปซื้อของที่ไม่ได้ชอบแต่แรก แต่ซื้อเพราะ ‘เค้าว่ากันว่า’ มันดี แม้จะตะขิดตะขวงใจก็ยอมซื้อ สุดท้ายถ้ามันไม่ถูกใจคนเราก็หาเรื่องโวยวายไม่ยอมรับว่าตัวเองน่ะพลาดไปเชื่อคนอื่นเอง

ทางที่ดี เลือกเดินทางสายกลาง ฟังคนอื่นบ้าง อ่านศึกษาเองบ้าง และสุดท้าย ตัดสินใจจากความชอบของตัวเอง ‘ความชอบ’ ในที่นี้หมายถึงชอบทั้งดีไซน์ ความสวย และความเหมาะสมกับเท้าตัวเอง หลายคนบ่นว่า รองเท้าดีมักไม่สวย รองเท้าสวย มักไม่ค่อยจะดี ไอที่ชอบก็ไม่ใช่ ไอที่ใช่ก็ไม่ชอบ ไอที่มันทั้งใช่และชอบ มันช่างหายากดีแท้ อันนี้ขอไม่เถียง เพราะเท่าที่ประสบมาก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ 

ในฐานะที่เป็นผู้หญิง (เลือกมาก) และการเลือกซื้อของ (เกือบทุกอย่าง) จะเน้นที่ดีไซน์ มันต้องเป๊ะถูกใจก่อน ฟังก์ชั่นช่างมันเดี๋ยวค่อยคิด ช่วงที่เลือกซื้อรองเท้าวิ่งคู่แรก เหนื่อยใจมาก ข้อมูลที่ศึกษามาท่วมหัวเอาตัวไม่รอด อ่านมาหมดทุกกระทู้ เว็บที่ฝรั่งเค้ารีวิวก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่าน สุดท้ายเพื่อตัดตัวเลือก จึงตั้งเกณฑ์ของตัวเองขึ้นมาว่าสำหรับตัวเราปัจจัยไหนมันมีผลต่อการเลือกซื้อบ้าง

New Balance 580v2 รองเท้าวิ่งสุดที่รักคู่แรกที่ได้มาครอบครอง

1. ราคา - พูดตามตรงว่า ณ ขณะนั้นยังไม่อยากซื้อของแพง เพราะไม่แน่ใจว่าจะวิ่งได้สักกี่น้ำ สองวันเลิกหรือเปล่า ไอคู่ที่หมายตาแบรนด์ยอดฮิตอย่าง Asics จึงแพงเกินไป เริ่มต้นที่ตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป จึงตัดแบรนด์นี้ออกไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นสำหรับมือใหม่หัดวิ่ง ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะคุ้มค่าการลงทุนไหมก็ลองเลือกซื้อรองเท้าวิ่งราคากลางๆ ที่แม้จะใส่ลงสนามได้อาทิตเดียว แล้วหยิบมาใช้นานๆทีอย่างเดือนละสองครั้งก็ไม่รู้สึกเสียดายมากนัก

2. แบรนด์ – ด้วยความที่เป็นคนบ้าแบรนด์ บ้าในที่นี้หมายความว่าถ้าชอบแบรนด์ไหน preference ในสินค้าแบรนด์นั้นจะสูงกว่าแบรนด์ที่ไม่ชอบ อย่างฉันชอบ Nike มากกว่า Adidas ถามว่าเพราะอะไร เพราะจริต emotion ล้วนๆ ไม่มีเหตุผล ชอบมากกว่าก็คือชอบมากกว่า แต่สำหรับรองเท้าวิ่ง แบรนด์ในใจที่คัดเลือกไว้แต่แรก คือ New Balance และ Asics เพราะเท่าที่ศึกษามาพบว่าเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งที่ได้รับการยอมรับ มากกว่าสองแบรนด์แฟชั่นข้างต้น (จริงๆรองเท้าวิ่งที่ได้รับการยอมรับในหมู่นักวิ่งยังมี Mizuno และ Brooks ค่ะ แต่ ณ เวลานั้นยังไม่นำมาตัดสินใจเพราะยังไม่แน่ใจในสรรพคุณ แต่ตอนนี้ค้นพบว่า มันเป็นที่นิยมมาก) และเมื่อนำมาพิจารณารวมกับงบประมาณ จึงเหลือตัวเลือกเพียงแบรนด์เดียว (ฮา)

3. รูปเท้า – ถ้าใครได้เคยศึกษาเรื่องรองเท้าวิ่งมาบ้าง คงคุ้นเคยกับคำที่ว่า “ซื้อรองเท้าให้เหมาะกับรูปเท้า” แต่ไหนแต่ไรไม่เคยสนใจว่ารองเท้าตัวเองมีลักษณะยังไง หรือทำไมต้องเลือกรองเท้าให้เหมาะกับลักษณะเท้าเรา สรุปแบบย่อๆเท้าคนเราจะมีอยู่ 3 ลักษณะเด่นๆ คือ Low arch (เท้าแบน), Normal, และ High Arch หรือมีส่วนเว้าของอุ้งเท้าสูงค่ะ Dr.CareBear หรือหมอหมีแห่งโรงพยาบาลสมิติเวชได้เขียนเรื่องการเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปเท้าไว้ละเอียดมาก ในฐานะที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจึงขอเรียนเชิญไปอ่านบทความของหมอหมี ที่นี่ กันดีกว่า สวยเป็นคนเท้าแบน และบาน จึงต้องเลือกรองเท้าหน้ากว้าง ไม่บีบรัดหน้าเท้า ซึ่งรองเท้าที่หน้าเท้ากว้างมักจะมีรหัส 4E แบรนด์ที่ได้ชื่อว่าทำรองเท้าหน้ากว้างก็เป็น New Balance, Mizuno, และ Brooks

และแล้วเราก็รักกัน

ถ้าข้อมูลที่พยายามศึกษามันเยอะแยะมากมายจนทำให้ยิ่งตัดสินใจไม่ถูก ลองยกเกณฑ์ในการเลือกหลักๆมาช่วยพิจารณาค่ะ เพื่อให้สามารถตัดตัวเลือกจนเหลือน้อยที่สุด อย่างไรก็ดี การที่เราจะหลงรักลองเท้าวิ่งสักคู่ หรือการที่จะเจอรองเท้าเนื้อคู่ที่พร้อมวิ่งไปด้วยกันอย่างลงตัวที่สุดมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กว่าจะเข้ากันได้ดี ต้องใช้เวลาค่ะ บางคู่อาจจะใช้เวลาเพียงวัน หรือ สัปดาห์ แต่บางคู่ก็ต้องปรับกันนานเป็นเดือนเลยก็มี ดังนั้นกว่าจะรักกันต้องใช้เวลาค่ะ แต่ถ้าลองแล้ว ให้โอกาสแล้วมันยังไม่ใช่ และฝืนไปก็พาลต้องเจ็บต้องทน ก็ลองเปิดใจรับเนื้อคู่ใหม่มาเรียนรู้กัน (เอ๊ะ..นี่พูดเรื่องรองเท้าใช่มั๊ย)