Saturday, February 18, 2017

[Foot Fit Journey] เรื่องเล่าจาก Everest Base Camp Trekking: Day 6 Pangboche - Dingboche

 “ครั้งแรกกับการเจอโรคแพ้ความสูงเล่นงาน”

[22 ธันวาคม 2559] Pangboche (3,985m) – Dingboche (4,358m)


ระหว่างเส้นทางเดินวันนี้

ตื่นมาเช้านี้ด้วยอาการอึนๆ เบื่อๆ นี่เราเดินทางมาแค่ 6 วันเองนะ แต่ทำไมกลับมีความรู้สึกเบื่อแล้ว อาจเพราะระหว่างทางมันไม่มีอะไรนอกจากภูเขา อ้าว.. ก็มานี่เพราะชอบภูเขาไม่ใช่เรอะ มันก็ใช่ แต่บางทีมันก็เยอะไปไง ตลอดทางมันไม่มีอะไรเลยนอกจากภูเขาที่โผล่มาทักทาย แล้วก็มีแม่น้ำที่โผล่มาทำให้ร้องว้าวบ้างในบางที นอกนั้นก็มีแต่ฝุ่น ควัน หิน ความร้อน เอาจริงๆ สำหรับใครที่ไม่ได้อยากเดินทางไกล แต่อยากเห็นแค่เอเวอร์เรสต์ มาแค่นัมเชก็พอ


สองบอดี้การ์ด

เดินกับแบบเหงาๆ แค่เราสามคน

เช้านี้ที่ Pangboche หนาวมาก หนาวกว่าทุกเช้าที่ผ่านมา หนาวจนเราไม่ยอมถอดเสื้อดาวน์ออกซักที หนาวจนเดินออกไปถ่ายรูปได้แค่แปบเดียวก็ต้องกลับเข้ามา หรือการสระผมเมื่อวานของเรามันจะเป็นจุดเปลี่ยนทำให้เราป่วย?


วิวและสภาพทางเดินสำหรับวันนี้




เมื่อเกิดอาการงอแง จึงอยากกินของที่คุ้นเคย เช้านี้เลยขอน้ำร้อนมาเพื่อชงกับโอวัลติน swiss 3-in-1 เพราะเชื่อว่า hot chocolate จะเยียวยาทุกสิ่ง


กับลูกหาบคู่ใจ

ออกเดินทางตอน 9 โมงเช้ามาถึง Dingboche เที่ยงตรงพอดี อย่างที่บอกว่า การเพิ่มระยะการเดินเมื่อวาน ทำให้วันนี้ของเราเป็นวันง่ายๆ ซึ่งจริงๆแล้วจะมาถึงเร็วกว่านี้ก็ได้ แต่ด้วยความที่รู้ว่าถ้าเข้าที่พักเร็ว ก็จะยิ่งไม่มีอะไรทำ พวกเราเลยเดินกันเอ้อระเหยมาก เดินสปีดเดียวกับ Yak ระหว่างทางอากาศเริ่มเย็นขี้นจนรู้สึกว่ามันแตกต่างกับวันอื่นๆที่ผ่านมามาก มีแดดตลอดแต่ไม่ร้อน เป็นลมเย็นๆพัดมาให้เดินสบาย วันนี้ด้วยการเดินสปีด Yak เราเลยเลือกพักกันที่ Yak Hotel




วันนี้ตอนเริ่มเดินมีอาการมึนหัวและมวนท้องแปลกๆ เลยพยายามเดินช้ามากๆ ตอนมาถึง Dingboche ได้สักพักก็มีอาการมึนหัวหน่อยๆ จึงพยายามเริ่มทำอะไรช้าๆ รู้สึกว่าง่วงมากๆ อยากจะหลับเสียให้ได้ แต่ไกด์บอกว่าห้ามนอนนะ จะไปซักผ้าไหม นี่ไกด์กับลูกหาบก็ออกไปซักผ้ากันสนุกสนาน ส่วนเราก็นั่งอ่านหนังสือไป แต่สติไม่อยู่กับตัวละเพราะง่วง




เครื่องดื่มที่เราชอบมากที่สุดตลอดการเดินทางทริปนี้คือ Ginger tea ชาขิงของที่นี่เด็ดตรงที่เป็นการหั่นขิงสดลงไปแช่ในน้ำชา ดื่มแล้วสดชื่นหายเหนื่อยดี

โมโมผัก
Dingboche 

พลังงานแงอาทิตย์

นั่งอยู่ในห้องอาหารสักพักเริ่มเบื่อ ออกไปเดินเล่นได้สักพักก็หนาวเลยกลับเข้าไปในห้องตัวเอง เข้าไปนั่งนิ่งๆนั่นแหละเพราะไม่มีแรงอยากทำอะไร แล้วอยู่ดีๆ ก็หลับไปในท่านั่งเท้าข้าง สะดุ้งตื่นมาเพราะจำได้ว่าไกด์บอกว่าห้ามหลับนะ เลยเดินกลับมาที่ห้องอาหารอีกครั้ง




สภาพห้องพัก

[18.41 น.]

ปวดหัวมาก ปวดตุบๆแบบหัวจะระเบิด ไกด์เห็นนั่งซึมๆเลยมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง พอเราบอกไปว่าเราปวดหัวมาก เท่านั้นแหละ ไกด์หน้าถอดสีเลย แล้วรีบถามต่อว่า “ยูปวดตรงไหน?” เราตอบไปว่า “ปวดตรงท้ายทอยด้านหลังหัวไกด์บอกว่าโอเค ถ้าปวดตรงนี้ก็น่ากังวลแล้ว ยูพยายามกินข้าว แล้วกิน Diamox เพิ่มตอนเย็นอีกครึ่งเม็ดแล้วไปนอน แล้วเรามาดูอาการกันอีกทีเช้าวันพรุ่งนี้ ถ้าไม่หายเราก็ต้องพักกันที่นี่อีกวันหนึ่ง

Noodle veg soup รสขาติแย่มาก


สำหรับหลายคน Dingboche จะเป็นจุดพัก Acclimatization อีกจุดหนึ่งหลังจากนัมเช เพราะจากตรงนี้ขึ้นไป จะเป็นระดับความสูงที่เริ่มมีผลกับร่างกายแล้ว ถ้าใครมีวันพักทีนี่ ก็จะไปเดิน hike ขึ้นเขาใกล้ๆนี่แหละ ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชม. แต่เราที่ไม่มีวันพอสำหรับการพัก เราจึงต้องสังเกตตัวเองมากกว่าคนอื่น ก็ได้แต่หวังว่าตื่นมาพรุ่งนี้เช้าอาการปวดหัวจะหายไป


แสงสุดท้ายของวันที่ Dingboche

อาการเรายังไม่หนักมาก ดูได้จากยังสามารถกินอาหารได้อยู่ มีหนุ่มช่างภาพชาวเนปาลีก็มีอาการและดูแย่มากกว่าเรา ในห้องอาหารคึกตักมากเพราะมี 2 กลุ่มใหญ่มาพักด้วย เล่นเกมกันสนุกสนาน เราก็ได้แต่องและนั่งหัวเราะ ไม่มีแรงจะไปเล่นด้วยจริงๆ

พาตัวเองเข้านอน ทั้งที่ใจกังวลมาก อาการปวดหัวมันทรมานมากจริงๆจนยากจะข่มตาหลับ อากาศก็หนาวมาก Diamox ก็กินแล้วปวดฉี่มาก 

อยากให้คืนนี้ผ่านไปเร็วๆเหลือเกิน

No comments:

Post a Comment