Wednesday, April 3, 2013

[Running Diary] 02.03.13



ฉันเป็นดราม่าควีน ที่ได้รับการการันตีจากหลายคนรอบตัวว่าระดับความดราม่าสูงส่งนักเชียว (ปลื้มใจนะที่ได้รับการยกย่อง) ก็ไม่ได้อยากดราม่า อยู่นิ่งๆเฉยๆแล้วนี่แหละ ไม่เข้าใจ ทำไม๊ทำไมกลิ่นอายดรามาติคมันชอบเข้ามาวนเวียนในห้วงอากาศรอบตัว เมื่อหลีกหนีดราม่าไม่พ้น เราก็ต้องอยู่กับความดราม่าให้อย่างเป็นสุขที่สุด

อีกหนึ่งช่วงเวลาที่รู้สึกเหนื่อยใจกับหลายๆสิ่ง แต่ฉันยังรู้สึกดีที่ฉันได้รู้จักกับการวิ่ง อีกหนึ่งเพื่อนคลายทุกข์ที่ได้รู้จักกัน และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่เหมาะกับการใช้ชีวิตด้วยในยามที่ฉันต้องการอยู่คนเดียวเพื่อพัก และคิดทบทวน

ในวันที่ใจมันล้าถึงขีดสุด สิ่งที่ฉันกลัวที่สุด คือ ฉันยังจะวิ่งได้ไหมเพราะรู้ดีว่า ใจมันสั่งกาย ถ้าใจมันแย่ขนาดนี้ แล้วมันจะไปสั่งกายให้แข็งแรงให้สู้ได้อย่างไร ความกังวลใจก่อตัวขึ้นเพราะเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นมันทำให้แรงบันดาลใจขาดหาย มองไป เห็นเพียง เส้นชัยที่ว่างเปล่าแล้วฉันจะยังทำมันได้ไหม ฉันจะไปถึงเป้าหมายนั้นด้วยตัวฉันเอง คนเดียวได้หรือไม่

หลังจากได้ลองไปวิ่งเมื่อวาน เป็นวันที่วิ่งด้วยใจที่ว่างเปล่า หัวที่สับสนจนกลายเป็นโลกสูญญากาศ ฉันวิ่งแบบไร้สติ เหม่อลอย คิดแต่เพียงว่า วิ่งไป วิ่งไป กลับกลายเป็นว่า เมื่อวานเป็นการวิ่งที่ฉันมีความสุขมากอีกหนึ่งวัน การที่ฉันวิ่งจนสุดพลัง จนรู้สึกได้ถึงหัวใจที่กำลังเต้นแรงอย่างเป็นจังหวะ มันทำให้ฉันรู้ว่า ฉันยังมีชีวิตและฉันต้องใช้มันต่อไป ฉันควบคุมโลกไม่ได้ แต่ฉันควบคุมสองเท้า สองขา และร่างกายของฉันได้ และการวิ่งคงเป็นช่วงเวลาเดียว ที่ฉันควบคุม หัวใจของตัวเองได้

...

No comments:

Post a Comment