Wednesday, April 10, 2013

[Race Diary] ColumbiaTrail Master 2013 Episode IV



ในวาระที่ Columbia Trail Master จะบรรจบมาจัดขึ้นอีกครั้งในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ สวยเลยขอมาบอกเล่า แบ่งปันประสบการณ์ที่เคยได้รับจากการไปเป็นส่วนหนึ่งในงานโคลัมเบียสักหน่อยดีกว่า เผื่อว่าใครที่ยังไม่เคยได้ลอง และกำลังคิด ตัดสินใจ ไปไม่ไป ยังไงดีจะได้พอมีไอเดียวคร่าวๆ นำไปประกอบการตัดสินชะตาชีวิต 




ย้อนกลับไปตอนตัดสินใจไปวิ่งเล่นในงาน ColumbiaTrail Master 2013 Episode IV@ Horseshoes Point ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2555 งานนี้มีให้เลือก 3 ระยะค่ะ 21.5 / 10 / 4 ฉันและทีมงานเลือกลงแบบทางสายกลาง จัดไปกันแค่คนละ 10 กม.พอเพราะยังหวาดหวั่นกับเส้นทางและลักษณะการวิ่งที่ไม่คุ้นชิน  

บอกตรงๆตอนนั้นไม่เคยรู้เลยว่าไอ trail running มันคืออะไร แต่ซนที่จะไปเพราะอยากเปลี่ยนที่วิ่ง อยากหาเรื่องเที่ยว แล้วพ่วงเอาการวิ่งเป็นข้ออ้างจัดทริปกับแก๊งค์เพื่อนสาว เมื่อทุกคนมีเป้าหมายตรงกันคืออยากไปเที่ยว ดังนั้นจึงสมัครไป แล้วเราค่อยมาหาข้อมูลกันว่าเราจะเจอกับอะไร

สนามโคลัมเบียที่ฉันไปจัดที่รีสอร์ท Horseshoes Point ซึ่งตอนที่ไปนั้นถือว่าโชคดีมากที่มีดีลของรีสอร์ท พอดีจึงสอยห้องพักมาทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะกับการเตรียมตัววิ่งในครั้งนี้ เพราะไม่ต้องตื่นเช้าเสียเวลาเดินทาง แต่สามารถลืมตาและงัวเงีย (ขอใช้คำว่างัวเวีย) ลงมาวิ่งได้ทันทีเพราะจุดปล่อยตัวห่างจากห้องพักไม่ถึง 100 ม. 


สภาพเส้นทาง วิ่งจริง ไม่มีสแตนอิน

แล้ว Trail running คืออะไร อธิบายง่ายๆตามสไตล์สวย วิ่งเทรลก็คือการวิ่งเล่นกลางดงพงไพร วิ่งบนเส้นทางที่มันไม่ปกติ ทางที่คนปกติเค้าไม่เลือกไปวิ่งกัน ใครยังนึกภาพไม่ออกขอให้ลองจินตนาการถึงวัยเด็กที่เป็นลูกเสือ เนตรนารีเดินทางไกลถือไม้ง่าม ประมาณนั้นแล และสำหรับเส้นทางการวิ่งในครั้งนี้ ได้รับการบรีฟจากรุ่นน้องที่ทำงานกับแบรนด์นี้ก่อนมาวิ่งว่าเป็นการวิ่งในป่าไผ่ ชิลๆ ง่ายๆ สบายๆสนุกๆพี่ หนูยังวิ่งได้เลย แล้วทำไมพี่จะวิ่งไม่ได้เอ้า เมื่อน้องมันท้ามาซะแบบนี้ ฉันก็เลยไม่ได้หวั่นใจอะไร ก็แค่เปลี่ยนจากถนนลาดยาง เป็นดิน ฟังดูไม่น่านักหนาอะไรนี่หนา

เมื่อถึงเวลาปล่อยตัว มองดูสมาชิกเหล่าคนร่วมอุดมการณ์ในงานนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในพัทยากันซะส่วนใหญ่ คนไทยก็มีประปราย และส่วนใหญ่ดูทุกคนจะพร้อมด้วยพรอพกันมากๆ พาลทำให้รู้สึกว่า นี่ฉันมาแบบสบายๆเกินไปหรือเปล่า ใครเขาก็มีปลอกแขนกันแดด ปกป้องตัวเองจากรังสียูวีกันสุดฤทธิ์ แต่ฉันมาแบบวิ่งในสวนลุมมากๆเลยนะนี่


ด้วยความที่มีนักวิ่งร่วมงานนี้ไม่เยอะมาก ถือว่าเป็นงานอบอุ่นที่คนไม่ล้นหลาม ช่วงเวลาปล่อยตัวฉันดันซ่าไปยืนอยู่ด้านหน้า เลยพาลทำให้โดนกระแสคนผลักดันให้วิ่งออกตัวอย่างเร็วมาก จนเสียจังหวะของตัวเอง กิโลแรกเพซการวิ่งของฉันอยู่ที่ 4 ปลายๆ ซึ่งถือว่าเร็วมาก เร็วผิดปกติสำหรับฉันที่ ณ วันนั้น ที่ไม่เคยวิ่งในระดับความเร็วเท่านั้นมาก่อน ระยะทางช่วงแรกของการวิ่งเป็นการวิ่งบนสนามหญ้า (สนามฟุตบอลของรีสอร์ท) แต่แล้ว ยังไม่เกิน 500 เมตรแรกดี ความจริงอันโหดร้ายก็เริ่มปรากฎ

จากสนามหญ้ากว้างๆ นักวิ่งโดนบีบให้ตั้งแถวเรียงเดี่ยววิ่งเข้าไปในป่า ซึ่งเส้นทางหลักๆเป็นการวิ่งในไร่มันสำปะหลัง นอกจากต้องระวังกับพื้นดินที่ผิวไม่เรียบ อารมณ์แบบว่าวิ่งตามร่องไร่จริงๆแล้ว ยังต้องทุ่มพลังทั้งหมดไปกับการวิ่งบนทราย เนื่องจากพื้นส่วนใหญ่ของไร่ในละแวกนี้เป็นพื้นทราย ไอดิน ไอทรายนี่ยังไม่หนักหนา เท่ากับการที่ต้องเขย่ง เล็งหลบกองนิวเคลียร์จากพี่วัวนะคะ เรียกได้ว่า งานนี้กลายร่างเป็นน้องหมาวิ่งเล่นในไร่ในทุ่งเลยจริงๆ
 
สำหรับการวิ่งเทรลครั้งแรกในชีวิต ขอบอกเลยว่าการวิ่งในครั้งนี้โหด และทรหดมาก แม้จะโชคดีที่วันนี้พี่แดดไม่ค่อยขยันทำงานเท่าไหร่ แต่สภาพพื้นที่ไม่ปกติมันสูบพลังมากเลยทีเดียว ฉันวิ่งไปเรื่อยๆ จนไปหมดแรงเอาในกิโลที่ 5 ตอนนั้นถึงขั้นหยุดเดินเลยทีเดียว อีกเหตุผลที่ทำให้การวิ่งนี้ฉันไม่สบายตัวอาจเป็นเพราะงานนี้ต้องถือขวดน้ำวิ่ง ด้วยสภาพเส้นทางเป็นป่า จึงทำให้จุดให้น้ำมีน้อย และผู้จัดงานจึงขอความร่วมมือให้นักวิ่งทั้งหลายพกเอาขวดน้ำติดตัวไป ฉันที่ไม่เคยวิ่งไปถือขวดน้ำไป จึงรู้สึกไม่ถนัดอย่างแรง จนไปถึงกิโลที่ 8 เริ่มรู้สึกล้าสุดๆกับการถือขวด เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ จึงขอฝากเค้าไว้ พี่เค้าก็ใจดีนะ รับขวดไปถือให้แบบงงๆ




เส้นทางโหดแต่ฉันก็ใส่เต็มกับการวิ่ง ไม่ได้ประมาณตน ไม่ได้ระวังเรื่องการบาดเจ็บเท่าไรนัก สุดท้ายเข้าเส้ยชัยด้วยเวลา 1.03 ชม. กับการวิ่งเทรลระยะ 10 กิโลเมตรถือว่าทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว แต่..สนามนี้ก็ทำให้จดจำไปจนตายจากอาการบาดเจ็บเนื่องจากข้อเท้าอักเสบที่เกิดขึ้น ซึ่งสาเหตุหนึ่งน่าจะเป็นเพราะการใช้รองเท้าเทรลคู่ใหม่ที่เพิ่งสอยมามาวิ่ง โดยที่ยังไม่คุ้นชินกับรองเท้า 

ฝากทริคไว้นิดนึงสำหรับคนที่สนใจจะไปร่วมงานนี้ และเป็นการวิ่งเทรลครั้งแรกในชีวิต ถ้าเส้นทางวิ่งแคบ แบบที่อาจจะต้องวิ่งแถวเรียงเดี่ยว ถ้าคุณวิ่งไม่ไหวและอยากหยุดพัก หรือหยุดเดิน อยากให้แลหลังมองคนข้างหลังที่ตามมาสักหน่อย พยายามหลบเข้าข้างทางให้มากที่สุด อย่าเดินเท่ห์ขวางทางเพราะจะพาลทำให้คนอื่นวิ่งไม่ได้และเสียจังหวะไปด้วย และหากต้องเข้าไปวิ่งตามร่องไร่ร่องสวน พยายามมองหาทางวิ่งที่ขรุขระน้อยที่สุด หรือให้ดีก็วิ่งตามคนข้างหน้า เหยียบตามรอยเท้าคนอื่นไป และถ้าไม่มั่นใจในสมดุลการทรงตัวของตัวเองจริงๆ อย่าวิ่งเร็วนักเพราะอาจจะพลาดล้ม ข้อเท้าพลิกเจ็บตัวได้นะจ๊ะ

วิ่งเทรลสนุกไหม? สนุกค่ะ คุณจะได้พบประสบการณ์การวิ่งใหม่ที่ไม่รู้ลืมเลยทีเดียว ถ้าอยากวิ่งเทรลให้สนุก ฉันขอนำแนะว่าควรวิ่งอย่างมีความสุข พร้อมที่จะดื่มด่ำกับธรรมชาติและเส้นทางที่ก้าวเท้าผ่านไป แต่ถ้าตั้งใจทำสถิติ หรือ เวลา ก็ต้องมั่นใจว่าคุณซ้อมมาดี เตรียมตัวมาอย่างดี และร่างกายกล้ามเนื้อแข็งแรงพอที่จะวิ่งในสภาพภูมิประเทศที่แตกต่างจากการวิ่งบนถนนปกติทั่วไปได้อย่างไม่บาดเจ็บ 

ถ้ายังไม่เคยลอง แนะนำว่าให้ลองสักครั้งในชีวิตการเป็นนักวิ่ง คุณอาจจะมีเรื่องเล่า เรื่องโม้เพิ่มขึ้นอีกสักเรื่องก็เป็นได้ race ใหม่เปิดรับสมัครแล้วนะคะ ใครสนใจเชิญได้เลยกับ Columbia Trail Master Episode V

ท้ายที่สุดอยากฝากกับผู้จัดงานไว้สักนิด (เผื่อคุณพี่จะผ่านมาอ่าน) ด้วยกระแสโปรโมทงาน และกระแสที่คนไทยหันมาสนใจการวิ่งมากขึ้น และเริ่มรู้จักการวิ่งเทรลมากขึ้น (สังเกตได้จากงานแบรนด์คู่แข่ง TNF100 ที่จัดไปเมื่อต้นปี) อยากให้คุณผู้จัดใส่ใจกับการจำกัดจำนวนนักวิ่งสักหน่อย โดยเฉพาะสำหรับระยะมินิมาราธอน ฉันเชื่อว่าจะมีคนสนใจร่วมงานคุณเยอะ แต่อยากให้คำนึงถึงปริมาณของฝูงชน ณ ขณะวิ่งด้วย ทางก็ลำบากแล้ว ยังต้องมาเบียดเสียกันอีก มันพาลไม่สนุกเอาเลยจริงๆนะจ๊ะ

2 comments: